แบงก์ชาติ พบแอปฯฝังมัลแวร์ ดูดเงินเหยื่อ ไม่ใช่ “สายชาร์จปลอม”

9Near แฮกข้อมูลคนไทย 55 ล้านคน รวมคนดังโดนด้วย

รมว.ดีอีเอส เร่งปิดเว็บไซต์ “9near” ขู่ปล่อยข้อมูลคนไทย 55 ล้านคน ประสานตร.ล่าแฮกเกอร์

นางสาวสิริธิดา พนมวัน ณ อยุธยา ผู้ช่วยผู้ว่าการสายกำกับระบบการชำระเงินและคุ้มครองผู้ใช้บริการทางการเงิน ชี้แจงกรณีข่าวข้อมูลประชาชนรั่วไหลว่า ธนาคารแห่งประเทศไทย (ธปท.) ร่วมกับศูนย์ประสานงานด้านความมั่นคงปลอดภัยเทคโนโลยีสารสนเทศภาคการธนาคาร (TB-CERT) ภายใต้สมาคมธนาคารไทย (TBA) ในการตรวจสอบระบบของธนาคารแล้ว ไม่พบข้อมูลรั่วไหลจากธนาคาร

ทั้งนี้ในการทำธุรกรรมทางการเงินผ่าน ผ่านโมบายแบงก์กิ้ง (Mobile Banking) ต้องมีหลายองค์ประกอบ ได้แก่

เครื่องโทรศัพท์มือถือของผู้ใช้บริการ ซึ่งต้องมีรหัสส่วนตัวในการเข้าใช้ รวมทั้งจะต้องยืนยันตัวตนในการทำธุรกรรมทางการเงิน

ขณะที่ สถาบันการเงิน มีระบบป้องกันข้อมูลของลูกค้าอย่างเข้มงวด และมีระบบตรวจจับความผิดปกติเพื่อให้การให้บริการทางการเงินมีความมั่นคงปลอดภัย ซึ่งสถาบันการเงินได้มีการเฝ้าระวังและติดตามเหตุการณ์อย่างใกล้ชิด

ขณะเดียวกัน ธปท. ได้เน้นย้ำให้สถาบันการเงินทุกแห่งต้องดำเนินการตาม พ.ร.ก. มาตรการป้องกันและปราบปรามอาชญากรรมทางเทคโนโลยี พ.ศ. 2566 อย่างเคร่งครัด

อย่างไรก็ดี เพื่อไม่ให้ตกเป็นเหยื่อภัยการเงิน ประชาชนสามารถปฏิบัติตนเพื่อป้องกันภัยเบื้องต้นได้ ดังนี้

1. ระมัดระวังมิจฉาชีพที่อาจใช้ข้อมูลที่รั่วไหลออกไป เช่น หมายเลขบัตรประชาชน หรือที่อยู่ ในการหลอกลวงให้ทำธุรกรรมทางการเงิน

2. หลีกเลี่ยงการให้ข้อมูลส่วนตัว และข้อมูลทางการเงินกับบุคคลอื่น ผ่านโทรศัพท์ โซเชียลมีเดีย เว็บไซต์ หรืออีเมล ที่ไม่น่าเชื่อถือ

3. หากถูกหลอกลวงในการให้ข้อมูลส่วนตัว หรือพบความผิดปกติของการทำธุรกรรม ให้เปลี่ยนรหัสผ่าน mobile banking ทันที และติดต่อธนาคารที่ใช้บริการผ่านช่องทาง hotline รวมทั้งดำเนินการแจ้งความโดยเร็วคำพูดจาก สล็อตออนไลน์